เปลี่ยนจาการเลือกฟิล์มติดรถยนต์มีรายละเอียดที่ลึกซึ้งกว่า เป็น 4 วิธีง่าย ๆ ในการเลือกติดตั้งฟิล์มกรองแสง เพียงเท่านี้ก็ไว้ใจ และรอรับประสบการณ์ขับขี่ที่ดีที่สุดได้เลย

การเลือกฟิล์มกรองแสงที่เหมาะสมสำหรับรถยนต์ของคุณอาจไม่ใช่เรื่องง่าย จะติดฟิล์มอะไรก็ได้ … ไม่ได้ เพราะฟิล์มแต่ละประเภท แต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกัน เหมาะสมกับผู้ใช้งานที่หลากหลาย แต่การที่จะเลือกซื้อฟิล์มติดรถยนต์สักแผ่นหนึ่ง จำเป็นต้องพิจารณาหลายปัจจัยเพื่อให้คุณเลือกฟิล์มกรองแสงที่เหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุด จะต้องคำนึงถึงปัจจัยอะไรบ้าง วันนี้เรามีมาบอกกัน

4 ปัจจัยในการเลือกติดตั้งฟิล์มกรองแสง

1.     คุณภาพของแผ่นฟิล์มกรองแสง

แน่นอนว่าใคร ๆ ก็อยากได้ฟิล์มกรองแสงที่ดี และสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างสูงสุด ดังนั้นเรื่องคุณภาพจึงเป็นปัจจัยแรกที่ผู้ใช้งานต้องคำนึงถึง แล้ว ‘คุณภาพของแผ่นฟิล์มกรองแสง’ ต้องเป็นอย่างไร?

ง่าย ๆ เลยคือฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้

–        มีค่าแสงที่ส่องผ่าน

–        มีค่าการลดรังสีความร้อนโดยรวม

–        มีค่าแสงที่สะท้อนภายนอก

–        มีค่าแสงที่สะท้อนภายใน

–        มีค่าการลดแสงจ้า

–        มีการป้องกันรังสี Ultraviolet

–        มีการป้องกันรังสี Infrared

มากไปกว่านั้น จำเป็นต้องเลือกฟิล์มกรองแสงที่เป็นที่รู้จัก ได้รับการรับรองคุณภาพ รวมทั้งผลิตมาจากโรงงานที่ได้รับมาตรฐานและเชื่อถือได้ สุดท้ายอย่าลืมตรวจสอบว่าฟิล์มกรองแสงนั้นมีการรับประกันคุณภาพหรือไม่?

2.     มาตรฐานจากโรงงานผู้ผลิต

ปัจจัยต่อมาคือเรื่องของ ‘มาตรฐานจากโรงงานผู้ผลิต’ ควรเลือกซื้อฟิล์มกรองแสงที่มีการระบุโรงงานผลิอย่างชัดเจน รวมทั้งมีที่ตั้งของโรงงานนั้น ๆ เช่นกัน โดยโรงงานจะต้องได้รับและเป็นที่น่าเชื่อถือมาตรฐานในระดับสากลอย่าง ISO 9001 ซึ่ง ISO มาจากมาตรฐานการบริหารคุณภาพที่ถูกกำหนดโดยองค์กรระดับโลก (International Organization for Standardization – ISO) จากประเทศสหรัฐอเมริกา

โดย ISO 9001 นี้เป็นมาตรฐานที่มีความน่าเชื่อถือ เพราะมีการตรวจสอบโดยผู้ประกอบการที่เชี่ยวชาญ ทำให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย นอกจากนี้ การได้รับมาตรฐานนี้ยังสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้า เนื่องจากสามารถยืนยันได้ว่าองค์กรนั้นได้ดำเนินกิจการในลักษณะที่ปลอดภัยและมีคุณภาพที่ดีตามข้อกำหนดที่กำหนดไว้ในมาตรฐานนี้

สำหรับมาตรฐาน ISO 9001 นี้ก็สามารถพบเจอได้ในบริษัทตัวแทนในประเทศไทยที่นำฟิล์มกรองแสงเข้ามาขายเช่นเดียวกัน ซึ่งข้อดีฐานะผู้บริโภคคือ สามารถเรียกตรวจสอบได้ ดังนั้นหากเลือกซื้อร้านค้าที่ได้รับมาตรฐานจากโรงงานผู้ผลิตก็ยิ่งช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าฟิล์มกรองแสงนี้มีคุณภาพและเหมาะแก่การติดตั้ง

3.     ชื่อเสียงของบริษัทตัวแทนจำหน่าย

ชื่อเสียงของบริษัทตัวแทนจำหน่าย คือ อีกหนึ่งปัจจัยที่หลายคนมองข้าม แต่ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ประสบการณ์การใช้ท้องถนนนั้นดีหรือแย่ลงได้เลยนะ

บริษัทที่ดีจำเป็นต้องมีความจริงใจในการให้บริการ และมีประสบการณ์ในแวดวงธุรกิจเครื่องยนต์มาอย่างยาวนาน ขายสินค้าแบรนด์นั้น ๆ มาตลอด หรือไม่มีการเปลี่ยนยี่ห้อสินค้าที่ขาย และที่สำคัญจะต้องไม่มีการใช้โฆษณาชวนเชื่อที่เกินจริง หรือให้ข้อมูลที่บิดเบือนเกี่ยวกับเรื่องของการติดตั้งแผ่นฟิล์มกรองแสง

เรื่องบริการหลังการขายก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัย เพราะบริษัทที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า จำเป็นต้องมีการดูแลลูกค้าตั้งแต่วินาทีแรกที่ลูกค้าเข้าร้าน หากลูกค้าพบปัญหาเกี่ยวกับการใช้งานเมื่อใดก็ตาม ก็ต้องมีระบบในการดูแลความสะดวกให้ จึงถือว่าเป็นบริษัทที่ดูแลลูกค้าของจริง

ดังนั้นเรื่องของมาตรฐานการรับประกันคุณภาพ จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะช่วยให้บริษัทดูแลลูกค้าได้ตลอดการใช้งาน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการซื้อฟิล์มกรองแสง จะต้องมีการรับประกันคุณภาพไม่น้อยกว่า 7 ปี หรือสิ้นสุดทันทีเมื่อเปลี่ยนเจ้าของรถยนต์ เพราะหากเกิดปัญหาอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับฟิล์มกรองแสง บริษัทเนี่ยแหละ ที่จะเป็นผู้ดำเนินการรับผิดชอบในส่วนนี้แทนลูกค้า

นอกจากนี้ควรเลือกบริษัทที่มีช่างผู้เชี่ยวชาญมีประสบการณ์ในการติดตั้งฟิล์ม เพราะการติดตั้งฟิล์มกรองแสงนั้นจำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ มิเช่นนั้นกาวบนแผ่นฟิล์มที่หลุดมาในขณะติดตั้ง อาจจะเป็นตัวการที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ด้วยนะ

4.     ค่าใช้จ่ายของแผ่นฟิล์มกรองแสง

ปัจจัยสุดท้ายสำหรับการเลือกติดตั้งฟิล์มกรองแสง ก็คงหนีไม่พ้นกับเรื่อง ‘ราคาของฟิล์มกรองแสง’ ที่ต้องไม่ถูกเกินไป และไม่แพงเกินไป อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ 

ต่อมาก็อาจจะตั้งคำถามว่า แล้วแผ่นฟิล์มกรองแสงต้องมีราคาเท่าไหร่ จึงสมเหตุสมผลมากที่สุด? คำตอบคือ แท้จริงแล้ว แผ่นฟิล์มกรองแสงนั้นมีหลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีราคาที่แตกต่างกันออกไปตามคุณสมบัติของแผ่นฟิล์มกรองแสง

ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือ ‘การเปรียบเทียบ’ ราคาจากแหล่งอื่น ๆ พร้อมทั้งเทียบ 3 ปัจจัยด้านบนควบคู่ไปด้วย และค่อยดูว่าราคาที่พบเจอนั้นมีความเหมาะสมกับคุณภาพของแผ่นฟิล์มกรองแสงและการให้บริการหรือไม่ หากพอใจ ก็ซื้อได้เลย

เห็นรายละเอียดเยอะแยะขนาดนี้ อาจจะทำให้หลายคนคงรู้สึกเหนื่อยตั้งแต่ยังไม่ได้ซื้อ แต่ถ้าอยากได้ฟิล์มติดรถยนต์ที่ดี ไม่ต้องเหนื่อยกับรายละเอียดมากขนาดนี้ เลือกฟิล์มติดรถยนต์จาก 3M เลย เพราะเค้าเลือกมาให้แล้ว ไม่ต้องเหนื่อยเลือกเอง

ฟิล์มติดรถยนต์ 3M นั้น ได้รับมาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับและได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานรถยนต์ทั่วโลก มีคุณสมบัติที่ช่วยป้องกันอันตรายจากแสงอาทิตย์ที่คอยทำร้ายรถยนต์และตัวของคุณ นอกจากนี้ยังมีฟิล์มหลากหลายประเภทซึ่งเหมาะกับผู้ใช้งานที่มีความหลากหลาย

โดยสำหรับตัวแทนในประเทศไทยที่ได้รับมาตรฐานจากบริษัท 3M นั้นก็คือ PK Pro Klasse หรือคลิกที่ https://pkproklasse.com/ ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้งานมาตลอดระยะเวลาหลายปี พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าทุกท่าน ซึ่งแน่นอนว่าที่นี่มาพร้อมกับ 4 ปัจจัยในการเลือกติดตั้งฟิล์มกรองแสงดังกล่าวแล้ว ไว้ใจเราได้เลย